Top Ad unit 728 × 90

เที่ยววัดราชบพิธ ชมสถาปัตยกรรมผสมระหว่างไทยและยุโรป


วัดราชบพิธ มีชื่อเต็มว่า "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร" สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๒ เป็นวัดประจำรัชกาลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ รัชกาลที่ ๕
ถนนเฟื่องนคร แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ

คติความเชื่อ :

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร : เชื่อว่าทำให้ธุรกิจมั่นคง

การสักการะ : กราบสักการะพระบรมอัฐิ ๕ รัชกาล - พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒), พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาบที่ ๓), พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔), พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕), พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) และพระบรมราชินีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ขอพรให้ธุรกิจมั่นคง 


สิ่งน่าสนใจ :


  • สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดได้แก่  พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ ภายในวิหาร พระพุทธประทีปวโรทัยปางมารวิชัย และพระพุทธอังคีรสน้อย
  • กราบสักการะพระบรมอัฐิ ๕ รัชกาล
  • ชมความงามของสถาปัตยกรรมผสมระหว่างไทยและยุโรป

แผนที่และการเดินทางไปวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร: 

ค่าพิกัดวัดราชบพิธฯ โดยประมาณ :  13.749130, 100.497870

รถยนต์ :
เดินทางมาจากถนนราชดำเนินกลางวิ่งไปทางสนามหลวงก่อนถึงสนามหลวงเลี้ยวเข้าถนนอัษฎางค์วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านกระทรวงมหาดไทยมาจะเห็นวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร อยู่ด้านซ้ายมือ

รถประจำทาง :
รถประจำทาง สาย 2, 33, 60, 64  ลงบริเวณกระทรวงกลาโหม-วังสราญรมณ์ แล้วเดินข้ามสะพานมาก็จะเจอวัดวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร





ข้อมูลท่องเที่ยววัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

วัดราชบพิธ มีชื่อเต็มว่า "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร"  พระอารามหลวงชั้นเอก เป็นวัดประจำรัชกาลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงโปรดให้สร้างขึ้นปี พ.ศ. ๒๔๑๒ เมื่อทรงครองราชสมบัติได้ ๑ ปี ตามโบราณราชประเพณี ครั้นถึงรัชกาลที่ ๖ ทรงคำนึงถึงว่า วัดเป็นศาสนสถานที่ได้มีการสร้างขึ้นมามากแล้ว จึงทรงโปรดเกล้าให้สร้างโรงเรียนวชิราวุธเป็นสถานศึกษาแทนการสร้างวัดประจำรัชกาล  ด้วยแนวทางพระราชดำริในรัชกาลที่ ๖  นี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) ก็มิได้ทรงสร้างวัดประจำรัชกาล หากทรงรับพระราชทานภาระทะนุบำรุงบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารแทน ดังนั้นวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นับเป็นพระอารามหลวงที่สร้างขึ้นประจำรัชกาลเป็นวัดสุดท้าย และถือเป็นวัดพระอารามหลวงประจำรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗  ความโดดเด่นของวัดราชบพิธ ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมผสมระหว่างไทยและยุโรปที่สวยงาม โดย ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบและตกแต่งแบบยุโรป
วัดในเมืองไทยของเรา ถือเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ เพราะนอกจากจะได้ชมความสวยงามของวัดไทยแล้ว ยังได้ศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศเราอีก สำหรับเราคนไทย วัดถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมทุกอย่างของเรา ไม่ว่าจะเป็นศูนย์รวมจิตใจ โรงเรียน ที่ประชุมของคนในหมู่บ้าน ที่พบปะสังสรรค์ ทุกอย่างเราจะใช้วัดเป็นศูนย์กลาง แต่เมื่อกระแสสังคมเริ่มเปลี่ยนไปสิ่งอำนวยความสะดวกเริ่มเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น เช่น จะนัดเจอกันก็คงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้า หรือบางครั้งเราก็เล่นแชทกันผ่านมือถือ ทำให้เราเริ่มออกห่างจากวัดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการมาเที่ยววัดจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราชอบมา เพราะนอกจากจะได้ชมความสวยงามของวัดแล้ว การทำบุญก็ถือเป็นการให้และได้บุญกลับมา การทำบุญไม่ได้หมายถึงแค่การบริจากเงินเท่านั้นนะคะ การกวาดพื้นวัด ทำความสะอาดวัด ก็ถือเป็นการทำบุญ และยังได้สติ ความสงบในจิตใจอีกค่ะ สำหรับบางวัด เราไปสามารถอยู่ได้เป็นวันๆ เพราะสงบมาก บางครั้งได้พูดคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาปฏิบัติธรรมร่วมกันได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกทั้งในส่วนของทางโลก และทางธรรมค่ะ พูดมายาวมากเราก็อยากชวนกันมาเที่ยววัดกันค่ะ สำหรับวันนี้ชวนกันมาเที่ยววัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร อีกวัดในกรุงเทพฯ ที่สวยงามมากค่ะ
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร หรือที่เรียกสั้นว่า วัดราชบพิธ มีความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมไทย และสถาปัตยกรรมตะวันตก
ตัวอาคารภายนอก และพระอุโบสถด้านนอก ก่อสร้างและออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทย
พระเจดีย์ พระอุโบสถ พระวิหาร โปรดให้สร้างเลียนแบบวัดพระปฐมเจดีย์ และวัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม โดยผนังประดับด้วยกระเบื้องเคลือบระบายลวดลาย 5 สี หรือที่เรียกว่ากระเบี้องเคลือบลายเบญจรงค์ที่เขียนด้วยมือทุกชิ้น จนได้รับสมญานามว่า “วัดลายเบญจรงค์”

ภายในพระอุโบสถออกแบบงานสถาปัตยกรรมตะวันตก ประดิษฐานพระพุทธรูป พระพุทธอังคีรส เป็นพระประธานในพระอุโบสถ
พระพุทธอังคีรส
"พระพุทธอังคีรส" พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระนามแปลว่า "พระผู้มีรัศมีฉายออกจากพระวรกาย" เป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ องค์พระเนื้อกระไหล่ทองคำหนัก ๑๘๐ บาท และที่ฐานบัลลังก์เนื้อกระไหล่ทองหนัก ๔๘ บาท ภายในบรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒), พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาบที่ ๓), พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔), พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕), พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗), พระบรมอัฐิพระศรีสุลาลัย สมเด็จพระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๓ และพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
นอกจาก พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ แล้วถัดจากพระพุทธอังคีรส เบื้องหน้ามีพระพุทธรูป พระพุทธนิรันตราย ประดิษฐาน ซึ่งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ทรงมีพระราชดำริ ให้สร้างพระพุทธนิรันตราย เพื่อเป็นที่ระลึกที่พระองค์ทรงสถาปนา พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกาย จนเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น มีผู้มีจิตศรัทธาสร้างพระอารามถวายแด่พระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติหลายพระอาราม เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ ณ พระอารามในคณะธรรมยุติกนิกาย มีจำนวน ๑๘ องค์ เท่ากับจำนวนปีที่ทรงดำรงสิริราชสมบัติ (พ.ศ. ๒๓๙๔ - พ.ศ. ๒๔๑๑) แต่ยังมิทันได้กะไหล่ทองเสร็จ ก็เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างกะไหล่ทองจนแล้วเสร็จและพระราชทานไว้ ณ พระอารามในคณะธรรมยุติกนิกาย ตามพระราชประสงค์ในสมเด็จพระบรมชนกนาถ โดยวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร  เป็นหนึ่งในวัดที่ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระพุทธนิรันตราย
เมื่อสร้างวัดเสร็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม หมายถึง วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ ซึ่งตามปกติแล้วเสมาของวัดโดยทั่วไปจะอยู่ตามมุมหรือติดอยู่กับตัวพระอุโบสถ แต่เสมาของวัดนี้ตั้งอยู่บนเสาที่กำแพงรอบวัดถึง 8 ด้าน
ประตูระหว่างพระมหาเจดีย์ พระอุโบสถ และพระวิหารต่างๆ จะมีประตูเข้า-ออก ด้านละ 3 ช่อง โดยแต่ละช่องมีบานประตูที่แกะสลักรูปเทวดาเฝ้าประตูลวดลายแบบจีน เรียกว่า "เซี่ยวกาง" มือถือง้าวยืนอยู่บนหลังสิงห์ ประดับด้วยกระจกสีสวยงามทั้งสองบานของแต่ละช่อง

จุดเด่นอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร คือพระระเบียงวงกลมล้อมรอบพระมหาเจดีย์ และเชื่อมต่อระหว่าง พระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารทิศตะวันออก และพระวิหารทิศตะวันตก เข้าด้วยกัน ผนังระเบียงนั้นประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ลายเทพพนมที่สวยงาม ทางเดินปูด้วยหินอ่อน

บานประตูและหน้าต่างพระวิหาร  ประดับด้วยลวดลายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 5 ดวงเรียงตามลำดับ ได้แก่ นพรัตน์ราชวราภรณ์ มหาจักรีบรมราชวงศ์ ปฐมจุลจอมเกล้า ประถมาภรณ์ช้างเผือก และ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย มีสีทองเป็นสีพื้นและประดับกระจกสีที่สวยงามมากค่ะ






มาในเขตสังฆาวาส ด้านทิศใต้ของพระมหาเจดีย์เป็นเขตสังฆาวาส ประกอบด้วยอาคารหลายหลัง ยังคงรูปแบบอาคารในสมัยก่อน
หลังจากเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเรียบร้อยแล้ว ถ้าโชคดีอาจจะได้เจอกับเจ้าจิ้งจอกน่ารักประจำวัดด้วยค่ะ เจ้าจิ้งจอกตัวนี้คนภายในวัดเล่าให้ฟังว่า เดิมทีมีคนเลี้ยงอยู่ แต่ได้หลุดหนีมาอยู่ที่วัด เจ้าของก็ตามมาจับกลับไป แต่จับไม่ได้สักทีจนเจ้าของต้องยอมให้เจ้าจิ้งจอกอาศัยอยู่ภายในวัดนี้ละค่ะ


👀  แนะนำที่กิน ที่เที่ยวกรุงเทพฯ



 กรุงเทพมหานคร

  ที่เที่ยว ท่องเที่ยว
  ที่กิน ร้านอาหาร
  ที่พัก ที่นอน




เที่ยววัดราชบพิธ ชมสถาปัตยกรรมผสมระหว่างไทยและยุโรป Reviewed by ที่เที่ยว on 20:54:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

All Rights Reserved by ที่เที่ยวบล็อก © 2014
Powered By Blogger

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

รูปภาพธีมโดย cmisje. ขับเคลื่อนโดย Blogger.