Top Ad unit 728 × 90

เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เขาแหลมหญ้า

เที่ยวเขาแหลมหญ้าเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสกับธรรมชาติหลากหลายชนิด เริ่มตั้งแต่สภาพป่าดิบแล้ง (Dry evergreen forest) ป่าทุ่งหญ้า (Rang) ป่าชายหาด (Mangroove forest) ไปจนถึงระบบนิเวศชายฝั่ง



 รวมสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย





 จังหวัดระยอง


 ค้นหาที่เที่ยว





เขาแหลมหญ้า

-  อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เที่ยวทะเล เล่นน้ำ เดินชมธรรมชาติ ดูพระอาทิตย์ตก

📌 ที่อยู่เขาแหลมหญ้า

อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด - บ้านก้นอ่าว ถ.หาดแม่รำพึง-เพ ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

 💻 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (Khao Leam Ya - Mu Ko Samet) เบอร์โทรศัพท์ และ ติดต่อเข้าพักภายในอุทยาน


🏩 จองที่พักจังหวัดระยอง




💙 สิ่งน่าสนใจ

  • กางเต้นนอนชมธรรมชาติสามารถติดต่อขอเช่าเต๊นท์ที่ทางอุทยาน หรือจะนำมาเองก็ได้
  • ชมบรรยากาศริมทะเล น้ำทะเลใส พร้อมถ่ายรูปวิวสวยๆ
  • กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เหมาะที่จะพาครอบครับมาทำกิจกรรมกัน แต่ต้องระวังหน่อนนะครับ เพราะเส้นทางค่อนข้างขรุขระ ช่วงท้ายเส้นทางบริเวณชายฝั่งค่อนข้างลื่น และเดินลำบากเนื่องจากต้องลัดเลาะตามโขดหิน

🚌การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด


ค่าพิกัดโดยประมาณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า : 12.587486, 101.419943 ใช้ Google Map นำทาง

🚲 เดินทางโดยจักรยาน :

สำหรับเส้นทางปั่นจักรยานเริ่มจากวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ก่อนออกเดินทางกราบไหว้ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่อยู่ภายในวัดก่อนครับ จากวัดลุ่มมหาชัยชุมพล ตัวเมืองระยองมาถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าเป็นระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร  โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทปั่นไปทางตะพง-หาดแม่รำพึง-บ้านเพ (เส้นทางนี้ต้องปั่นจักรยานระมัดระวังหน่อยนะครับ) ประมาณกิโลเมตรที่ 229 หรือ ปั่นจักรยานมาระยะทางประมาณ 8.5 จะเจอสีแยกตะพง เลี้ยวขวาไปหาดแม่รำพึง สำหรับเส้นทางนี้สามารถปั่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางตามถนนเลียบชายหาดหาดแม่รำจนสุดหาดเป็นทางโค้งซ้ายมือ ปั่นจักรยานจากทางโค้งมาประมาณ 300 เมตร จะถึงทางเขาอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าซึ่งอยู่ด้านขวามือ ปั่นจักรยานเข้าอุทยานฯ เป็นทางขึ้นเนินเขาจนไปสุดทางที่ศาลาริมทะเล รับรองว่าวิวที่เขาแหลมหญ้าสวยมากๆ

🚌 เดินทางโดยรถประจำทาง :

 ขึ้นรถประจำทางสายระยอง - บ้านเพ - แหลมแม่พิมพ์

🚗 เดินทางโดยรถยนต์
  1. ทางหลวงพิเศษสาย 7 (Mortor way) มุ่งหน้าไปทางจังหวัดระยองตามทางสาย 36 จนถึงแยกตะพงให้เลี้ยวขวาไปหาดแม่รำพึง ขับเรียบถนนชายหาดแม่รำพึง สามารถชมบรรยากาศริมทะเลและชาดหาดแม่รำพึง ผ่านลานหินขาว ตรงไปเจอทางโค้งซ้ายมือบ้านก้นอ่าวขับตามทางไปอีกประมาณ 300 เมตร จะเห็นป้ายทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าด้านขวามือ
  2. ทางหลวงพิเศษสาย 7 (Mortor way) มุ่งหน้าไปทางจังหวัดระยองตามทางสายนอกจนถึงป้ายร้านอาหารตำนานป่า เลี้ยวขวาเข้าไปทางร้านอาหารตำนานป่า ขับตรงมาเจอสามแยก เลียวซ้าย ตามทางมาจะเจอแยกอีกทีให้เลี้ยวขาว ตรงมาทางเขาอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าอยู่ด้านซ้ายมือ

🔎 แผนที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า



เขาแหลมหญ้า

-  อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เที่ยวทะเล เล่นน้ำ เดินชมธรรมชาติ ดูพระอาทิตย์ตก


การมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า นอกจากจะได้ชมความงามที่สร้างสรรค์จากธรรมชาติแล้ว เราสามารถศึกษาธรรมชาติหลากหลายชนิดได้จากที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า โดยแบ่งสถานีศึกษาธรรมชาติออกเป็น 9 สถานี เราไปศึกษากันแต่ละสถานีกันเลย



สถานีที่่ 1 แนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ระยะทางประมาณ 1,100 เมตร ตลอดเส้นทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติหลากหลายชนิด เริ่มตั้งแต่สภาพป่าดิบแล้ง (Dry evergreen forest) ป่าทุ่งหญ้า (Rang) ป่าชายหาด (Mangroove forest) ไปจนถึงระบบนิเวศชายฝั่ง สภาพเส้นทางค่อนข้างขรุขระ ช่วงท้ายเส้นทางบริเวณชายฝั่งค่อนข้างลื่น และเดินลำบาก เนื่องจากต้องลัดเลาะตามโขดหิน เด็กและคนชราต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก
ข้อปฎิบัติ : เดินด้วยความระมัดระวัง ไม่เดินออกนอกเส้นทางและไม่ส่งเสียงดัง ไม่ทิ้งขยะ ขีดเขียนทำลายหรือเก็บพันธุ์ไม้ หิน ปะการังต่างๆ ออกไป




สถานีที่ 2 ชีวิตกลางวนา
ชีวิตกลางวนา หมายถึงอะไร? ลองหยุดมองดูป่าบริเวณนี้ซิ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร? สังคมวนา (สังคมป่า) ก็คือ ระบบนิเวศ (ecosystem) ลักษณะหนึ่งที่มีวัฏจักร เริมตั้งแต่ กล้าไม้ต้นเล็กๆ เติบโตเป็นไม้ใหญ่ ออกดอก ออกผลให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่า เช่น ลิง นก แมลง ผีเสื้อต่างๆ ได้กินเป็นอาหาร และตอบแทนด้วยการช่วยผสมเกสร และแพร่ขยายพันธุ์ให้งอกเงยเป็นกล้าไม้ และหากต้นไม้ใหญ่โค่นล้มลงเปิดโอกาสให้เกิดช่องแสง กล้าไม้ที่รอคอยแสงอยู่นาน ก็ถึงเวลาที่จะได้รับแสงแดดเพื่อปรุงอาหาร และเดิบโตเป็นไม้ใหญ่ต่อไป แต่หากเรือนยอดไม้ด้านบนหนาทึบ มักจะพบว่าพื้นล่างค่อนข้างโปร่ง เนื่องจากกล้าไม้ถูกบังแสดแดดและตายลงไม่สามารถเติบโตได้ พบได้ตามป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง เป็นต้น และนี่ก็คือตัวอย่างของชีวิตกลางวนาส่วนหนึ่งที่มีการเกื้อกูล เอื้อประโยชน์ แย่งชิงกันไป คล้ายกับสังคมมนุษย์เรา แต่สิ่งสำคัญที่เราควรจะยึดถือเป็นแบบอย่างก็คือ การที่สังคมวนาได้ช่วยสร้างคุณประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลกใบนี้ นานับประการ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ แหล่งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคจากสมุนไพรป่า แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่ให้เราได้มาสัมผัสอยู่นี่ไงจ๊ะ


สถานีที่ 3 ห้องเรียนธรรมชาติศึกษา
ทรัพยากรธรรมชาติ คือ แหล่งเรียนรู้ติดแอร์ธรรมชาตินอกห้องเรียน ที่หาไม่ได้ง่ายนักในห้องเรียนสี่เหลี่ยม ซึ่ง ณ ตอนนี้ห้องเรียนของเรา ก็กำลังรอคุณมาสัมผัสและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ลองหยุดมองตัวอย่างด้านนี้ซิ รู้ไหมคืออะไร? นี่ก็คือ แปลงตัวอย่างที่นักวิจัยใช้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่พบบริเวณแปลงริมทางเดิน เปรียบเที่ยบกับแปลงที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน ซึ่งข้อมูลที่ได้สามารถนำไปใช้เป็นฐานข้อมูลวางแผนเพื่อจัดการอุทยานแห่งชาติไปในทิศทางที่เหมาะสมและลดผลกระทบต่อพื้นที่ต่อไป คุณยังสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติรอบๆ ได้อีกมากมาย ลองสังเกตดูต้นไม้แต่ละต้นสิ ทำไมถึงแตกต่างกัน ตั้งแต่ลำต้น กิ่ง ใบ ดอก บางชนิดมีหนามแหลม เช่น ต้นไม้ที่พบบ่อยบนเส้นทางฯ เรียก มะนาวผี (ต้นไหนเอย?)


ลักษณะ อุโมงค์ต้นไม้ (tree tunnel) ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ให้เราได้สัมผัส

สถานีที่ 4 อุโมงค์ป่า
เรือนยอดกิ่งก้านไม้และเถาวัลย์พันเกี่ยวโน้มจนเอนจากฝั่งซ้ายและขวาเข้าหากันเกิดเป็นอุโมงค์ธรรมชาติ ที่กำลังจะพาท่านเดินลอดออกไปพบสิ่งแปลกใหม่ เชื่อมต่อกัน ระหว่างสังคมป่า ที่เรียกว่ารอยต่อป่า (ecotone) ซึ่งเป็นรอยต่อของระบบนิเวศป่า ที่มีความแตกต่างกัน ระหว่างสังคมป่าดิบแล้ง (dry ever green forest) กับสังคมป่าอีกชนิดหนึ่งที่ท่านจะได้พบในเบื้องหน้า



สถานีที่ 5 มหัศจรรย์แหลมหญ้า น่าชม
แหลมหญ้า คือ ส่วนของพื้นดินที่มีลักษณะรูปทรงแหลมยื่นออกไปในทะเล โดยบริเวณนี้ ได้รับอิทธิพลจากลมตะว้นตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมค่อนข้างแรง ทำให้กล้าไม้น้อยใหญ่ ไม่สามารถที่จะต้านทานลมและเจริญเติบโตได้ ส่งผลให้บริเวณนี้มีเฉพาะหญ้าขึ้นเท่าน้น ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ "เขาแหลมหญ้า"



สำหรับบริเวณนี้ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตกที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ



บริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามบนเขาแหลมหญ้า ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศคล้ายแหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต จึงมีอีกชื่อหนึ่ง คือ แหลมพรหมเทพ 2





สถานีที่ 6 เมื่อลาวาสงบ
เมื่อลาวาสงบ เราพบอะไรนะ? คำตอบคือ ผืนแผ่นดินซึ่งมีลักษณะเป็นหินแกรนิตอายุมากที่เรายืนอยู่นี่ไง มีอายุเก่าแก่จัดอยู่ในมหายุค Pre-Cambrian
สำหรับมหายุค Pre-Cambrian นี้เป็นยุคที่พบซากดึกดำบรรพ์ได้น้อย เนื่องจากเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของชั้นหินมากกว่า โดยเริ่มจากการสะสมตะกอนเป็นชั้นสลับกับการกัดเซาะและการสร้างภูเขาไฟ เมื่อภูเขาไฟประทุ จึงเกิดลาวาไหลแผ่กว้างและค่อยๆ สงบลงจนผ่านยุคน้ำแข็ง 2 ระยะ จบลงด้วยการเกิดแผ่นดินยกสูงขึ้นและเกิดการกัดเซาะ ต่อมาเมื่อน้ำทะเลได้ท่วมถึงพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด (ซึ่งเดิมเคยเป็นแผ่นดินต่อเนื่องกันมาก่อน) จึงแยกฝั่งเขาแหลมหญ้าและปรากฏเป็นหมู่เกาะเสม็ด และหมู่เกาะบริวารต่างๆ ที่เราเห็นในปัจจุบัน


หินแกรนิต คือ หินที่หลอมเหลว (แมกม่า) และเย็นตัวใต้ผิวโลก




สถานีที่ 7 ระบบนิเวศชีวิตน้ำขึ้น - ลง ภาค 1
หลังจากศึกษาลักษณะธรณีสัณฐาน การก่อกำเนิดของเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดแล้ว สิ่งที่เราได้รับประโยชน์ต่อเนื่องมาจากการเกิดน้ำท่วมถึง ซึ่งคือ ระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตแนวน้ำขึ้น-น้ำลง
ก่อนอื่นเรามารู้จักปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง กันก่อนครับ ปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง เกิดจากอิทธิพลแรงดึงดูดของดวงจันทร์ เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากมวลน้ำบนผิวโลกซึ่งเป็นของเหลวไหลได้ จึงถูกดึงไปทางทิศของดวงจันทร์ ทำให้มวลน้ำในมหาสมุทรปูดออกไป 2 ทาง คือ ด้านที่อยู่ใกล้และไกลดวงจันทร์มากที่สุด เมื่อมวลน้ำด้านตรงแนวพระจันทร์ถูกดึงปูดออก บริเวณนั้นจึงเกิดปรากณการณ์ "น้ำขึ้น" ส่วนอีกด้านที่ตั้งฉากกับแนวดึงดูดของพระจันทร์ จึงถูกดึงรีดออกไป ทำให้เกิดปรากฏการณ์ "น้ำลง"






สถานีที่ 8 ระบบนิเวศชีวิตน้ำขึ้น - ลง ภาค 2
ระบบนิเวศชีวิตน้ำขึ้น - ลง มีสิ่งมีชีวิตอะไร ? อาศัยอยู่บ้างนะ !
สำหรับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ พบว่ามีทั้งสัตว์และพืชซึ่งเป็นพวกที่มีความอดทนในการปรับตัวที่สุดยอด เพราะภายในรอบ 24 ชั่งโมง จะต้องต่อสู้กับคลื่นทะเลที่คอยซัดกระหน่ำเป็นประจำต้องถูกน้ำท่วมและถูกตากแห้งกลางแสงแดดสลับไปมา รวมถึงต้องทนต่อความเค็มของน้ำที่เปลี่ยนไปมา
สิ่งมีชีวิตที่พบได้บริเวณนี้ได้แก่พีชชายฝั่ง เช่น ผักบุ้งทะเล (Ipomea pes-caprae)  สนทะเล (Casurina equisetifolia) โพทะเล (Thespesia populnea) เตยทะเล (Pandanus odoratissimus) และสัตว์น้ำ เช่น หอยฝาเดียว (Snails) และหอยสองฝา (Clams) ชนิดต่างๆ เช่น หอยนางรม (Saccostrea cucullata) เพรียง (Barnacle) ปูหนมมาน (Matuta planipes) ปลา (Fishes) ชนิดต่างๆ ระหว่างเส้นทางเรามีโอกาสไดพบเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนบ้าง ลองสังเกตและบันทึกดู




สิ่งมีชีวิตตามริมทะเลจะต้องต่อสู้กับคลื่นทะเลที่คอยซัดกระหน่ำเป็นประจำ




สถานีที่ 9 สิ้นสุดเส้นทางอุทยานฯ ในวรรณคดี
นี่คือสถานีสุดท้าย หลังจากที่ท่านได้สัมผัสกับธรรมชาติๆ รอบเส้นทางของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งเป็นอุทยานฯ ทางทะเลที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่ทรงคุณค่า และสุนทรภู่กวีเอกเลื่องชื่อที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวภูมิทัศน์อันสวยงามผ่านตัวละครในวรรณคดี เรื่อง พระอภัยมณี ไม่ว่าจะเป็น เกาะแก้วพิสดาร ซึ่งก็คือ เกาะเสม็ดในปัจจุบัน เกาะกุฏี ผานิลมังกร ซึ่งเป็นที่อยู่ของชีเปลือย สุดสาคร และม้านิลมังกร นอกจากนั้น หากท่านมีโอกาสนั่งเรือท่านยังสามารถจินตนาการมองเกาะต่างๆ ตั้งแต่เกาะทะลุ เกาะกุฏี เกาะขาม เกาะกรวย และเกาะปลายตีน เป็นนางผีเสื้อสมุทรนอนหงายหน้าตรอมใจตาย โศกเศร้าที่พระอภัยมณีและนางเงือก หนีมาหลบภัยบนเกาะแก้วพิสดารได้





เดินมาจนถึงสถานีที่ 9 ก็มาถึงบริเวณด้านล่างของเขาแหลมหญ้า ซึ่งบริเวณนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพประทับใจ







สะพานท่าเทียบเรือไปเกาะเสม็ด ครับ จากจุดนี้ห่างกันเพียง 3 ก.ม. เท่านั้น








👀  แนะนำที่กิน ที่เที่ยวจังหวัดระยอง



 จังหวัดระยอง



เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เขาแหลมหญ้า Reviewed by ที่เที่ยว on 01:51:00 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

All Rights Reserved by ที่เที่ยวบล็อก © 2014
Powered By Blogger

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

รูปภาพธีมโดย cmisje. ขับเคลื่อนโดย Blogger.