ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (นาจา)
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม เป็นที่ศรัทธาของชาวพุทธเชื้อสายจีน มักมากราบไหว้ ตามความเชื่อว่า การสักการะองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ, เทพเจ้าประจำปีเกิด, และเทพเจ้าองค์อื่นๆ เพื่อเสริมโชค เสริมดวงชะตา ให้ประสบความสำเร็จ มั่งมี รวมถึงการทำพิธีแก้ชงสำหรับผู้เกิดในราศีที่ชงกับปีปัจจุบัน และการมาสะเดาะเคราะห์
รวมสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทย
ชลบุรี
ที่เที่ยว ท่องเที่ยวที่กิน ร้านอาหาร
ที่พัก ที่นอน
ค้นหาที่เที่ยว
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม
ที่อยู่ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม :
ตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี🏩 จองที่พักจังหวัดชลบุรี
สิ่งน่าสนใจ :
กราบไหว้ ฟ้า - ดิน - แม่ธรณีกราบไหว้องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
กราบไหว้องค์เทพเจ้าภายในศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
คติความเชื่อ :
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ : การสักการะองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ, เทพเจ้าประจำปีเกิด, และเทพเจ้าองค์อื่นๆ เพื่อเสริมโชค เสริมดวงชะตา ให้ประสบความสำเร็จ มั่งมี รวมถึงการทำพิธีแก้ชงสำหรับผู้เกิดในราศีที่ชงกับปีปัจจุบัน และการมาสะเดาะเคราะห์
การสักการะ องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ :
1. ถวายชุดผลไม้2. จุดธูป 11 ดอก โดยไหว้ฟ้า-ดิน 5 ดอก แม่ธรณี 3 ดอก เทพเจ้าหน่าจา 3 ดอก
3. จุดธูปทั้งหมดไหว้เทพเจ้าด้านในศาล กระถาง ละ 3 ดอก โดยไหว้ตามหมายเลขที่กระถางธูป
4. เดินน้ำมันตะเกียง
🚗 การเดินทางไปศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
ค่าพิกัดโดยประมาณศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ : GPS 13.328879, 100.922686 (Open by Google Map)เดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ
เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ทางหลวง 3134 สุขุมวิท-อ่างศิลา เลยวัดอ่างศิลามา จะผ่านทางโค้งขวามือเป็นสะพานปลาอ่างศิลาตรงมาศาลเจ้าอยู่ด้านซ้ายมือ สามารถจอดรถฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าได้
เดินทางโดยรถยนต์จากบางแสน
เดินทางมาจากบางแสน เดินทางขึ้นมาทางแหลมแท่น ไปอ่างศิลา ผ่านเขาสามมุขตรงไป ศาลเจ้าอยู่ด้านขวามือสามารถจอดรถฝั่งตรงข้ามศาลเจ้าได้
🚩แผนที่ไปศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ หรือ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม เดิมเป็นเพียงศาลเจ้าเล็กๆ ไม่ใหญ่โตมาก โดยท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพ เป็นผู้ริเริ่มสร้าง ด้วยบารมีแห่งองค์เทพเจ้าหน่าจาฯ ทำให้มีบรรดาลูกศิษย์และผู้ให้ความเคารพนับถือมาสักการะบูชาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมาเมื่อปี พ.ศ. 2539 ท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพ ท่านได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ โดยจัดสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อ “ เฉลิมพระเกียรติครบรอบ 72 พรรษา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ”
ประวัติศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
ศาลเจ้าก่อสร้างเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ปีกุน จ.ศ.1357 แรม 5 ค่ำ เดือน 8 เวลาประมาณ 13.00 น. ตามจันทรคติจีน ตรงกับ เดือน 6 วันที่ 19 เวลา บี๋ซี้ ประกอบพิธีการวางศิลาฤกษ์โดยท่านอาจารย์สมชาย พุทธนพ ซึ่งขณะนั้นมีเงินทุนของศาลอยู่เพียง 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งก็ได้ลูกศิษย์พ่อค้าประชาชนที่ให้ความเคารพได้ร่วมบริจาคเงินสร้างศาลเจ้ามาจนถึงปัจจุบันแล้วเสร็จเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2543 ปีมะโรง จ.ศ. 1362 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ( ปฏิทินจีนตามจันทรคติ ตรงกับวันที่ 3 เดือน 3 ทำพิธีตามฤกษ์ เทวโองการ ( แต่ยังไม่เป็นทางการ ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2543 เวลา 08.39 น. จ.ศ. 1362 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5 ( ปฏิทินจีนตามจันทรคติ คือ เดือน 3 วันที่ 12 เวลา ซิงซี้ ) ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างกว่า 4 ปี ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 300 ล้านบาท สร้างอยู่บนเนื้อที่ 5ไร่ และยังมีเนื้อที่อยู่รอบศาลเจ้าอีกกว่า 9 ไร่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2541 สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้เสด็จมาเป็นประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธ 7 พระองค์ และทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 9 พระองค์ ให้แก่อาจารย์สมชาย พุทธนพ เพื่อทำพิธีบรรจุ และได้รับเกียรติจาก ฯ พณ ฯ ท่าน ม.ร.ว. อดุลกิติ์ กิติยากร เป็นประธานในพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระสังฆราช ฯ ได้พระราชทานนามวิหารแห่งนี้ว่า “ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ” ซึ่งมีนัยความหมายว่าเป็นที่สถิตของทวยเทพเจ้าทั้งหลาย
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.najathai.net)
ประวัติองค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ เป็นตำนานที่เล่าขานกันมาแต่ครั้งบุราณกาล สมัยปลายราชวงศ์เชียงต้นรางวงศ์จิวมีจิวบุ้นอ้วงเป็นฮ่องเต้ ในยุคนั้นผู้ที่นับว่าเป็นอัจฉริยะมี "เกียงจื๋อเง้" หรือเกียงไท้กง และหน่าจาซาไท้จื้อ องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นบุตรคนที่ 3 ของแม่ทัพหลี่เจ๋ง กับนางฮิง บุตรคนโตชื่อ "กิมจา" และคนรองชื่อ "บักจา" มารดาตั้งครรภ์หน่าจาเป็นเวลา 3 ปี 6 เดือน จึงคลอด หลังจากคลอดแล้ว หน่าจาแทนที่จะเป็นเด็กทารกดั่งเช่นเด็กทั่วไป กลับเป็นก้อนเนื้อทรงกลม ๆ ที่ห่อหุ้มไว้ด้วยเนื้อเยื่อและรกพันเต็มไปหมด ยังความตกใจและประหลาดใจแก่แม่ทัพหลี่เจ๋งและนางฮิง ผู้เป็นบิดา ด้วยความประหลาดดังกล่าว หลี่เจ๋งผู้เป็นบิดาจึงใช้กระบี่ฟันก้อนเนื้อ ปรากฏว่าภายในก้อนเนื้อนั้น เป็นเด็กทารกเพศชาย ซึ่งในมือขวาถือห่วงทองคำและรอบตัวพันด้วยผ้าแพรสีแดง ยังความปิติยินดีให้กับครอบครัว ขุนนางใหญ่น้อยได้มาแสดงความยินดีกับแม่ทัพหลี่เจ๋ง ในขณะนั้นมีนักพรตท่านหนึ่งมีนามว่า "ไท้อิกจิงยิ้ง" ซึ่งบำเพ็ญศีล ภาวนาอยู่ ณ ยอดเขาเคี่ยงง่วนซัวกิมกวงตัง หรือปัจจุบันเรียกว่า "ไท้อิกติ่ง" มาร่วม แสดงความยินดีด้วย และเมื่อได้เห็นบุคลิกลักษณะของเด็กน้อยก็เกิดความชื่นชมพร้อมกับ ได้ชี้แจงให้แม่ทัพหลี่เจ๋ง และนางฮิงทราบว่า ห่วงทองและผ้าแดงที่ติดตัวมานั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้มีบุญญาบารมีสูง อีกทั้งได้รับตัวเด็กน้อยไว้เป็นศิษย์ และตั้งชื่อให้ว่า "หน่าจา" เพื่อถ่ายทอดวิชาวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม
ชั้นที่ 1 : เป็นที่ประดิษฐานของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ซึ่งทรงปณิธานคล้ายคลึงกับพระแม่ กวนอิมแต่ผิดไปจากพระแม่กวนอิม คือ พระองค์จะต้องโปรดเวยไนยสัตว์ที่อยู่ในนรกให้หมดฉะนั้นในงานศพจึงบูชาท่านก็ เลยการเป็นพิธีไปส่วนพิธีมงคลนิยมบูชาพระแม่กวนอิม กระทั่งเกิดคำว่า “ ตี๋จั๋งโปรดคนตาย พระแม่กวนอิมโปรดคนเป็น” และยังมีองค์ดวงดวงเทพพระเคราะห์ ( องค์ไท้ส่วย ) ทั้งหมด 60 องค์ พระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ และยังเป็นที่ทำการของมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์อีกด้วยชั้นที่ 2 : เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ทั้ง 3 ปางที่จำลองมาจากมณฑลเสฉวนจากประเทศจีน เป็นศาลเจ้าแรกขององค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ซึ่งท่านแม่ขององค์เทพเจ้าหน่าจาเป็นผู้สร้างให้และยังมีรูปเหมือนองค์เทพ เจ้าหน่าจาซาไท้จื้อปางประสูติ ปางปราบมารนั่งบัลลังที่หล่อขึ้น ณ วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม ประดิษฐานชั้นนี้ด้วย และรูปแกะสลัก มหาโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาว หรือ ( พระอวโลกิเตศวร ) จากประเทศพม่า พระแม่กวนอิมมีสมญานามว่า มหาเมตตา กรุณา เพราะว่าพระองค์มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์โลกเป็นจำนวนมาก พระองค์ท่านสามารถประทานพรให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอพรให้พ้นภัยต่าง ๆ ได้และยังมีองค์เต๋า เล่าหง่วงกุง ( พระมารดาแห่งดวงดาว ) องค์กิ้วอ้วงฮุกโจ้ว องค์หนึ่งออเนี่ยเนี้ย องค์เทียงโหงวเซี้ยบ้อ องค์อุ่ยท้อผ่อสัก และ องค์เทพเจ้ากวนอู ประดิษฐานอยู่ด้วย
ชั้นที่ 3 : เป็น ที่ประดิษฐานขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ที่เรารู้จักกันดีว่าท่านเป็นผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์ ข้าราชการนิยมมากราบไหว้เพื่อมาขอพรท่านให้ได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การ งาน และยังพระแม่ธรณี องค์ฮั่วท้อเซียนซือ องค์ไท้อิกกิวโค่วกิ่วหลั่งเทียงจุง องค์ไท้เสียงเหล่ากุง องค์ไท้แป๊ะกิมแซ ซึ่งเป็นองค์เทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากมาย และยังมีมหาโพธิสัตว์กวนอิม หรือ ( พระอวโลกิเตศวร ) อีกหลายปาง ซึ่งประดิษฐานอยู่ทางด้านอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรม ราชินีนาถ 72 พรรษา
ชั้นที่ 4 : เป็นชั้นที่สูงสุดเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นองค์ประธานหรือองค์พระศรีศากยมุนี พระพุทธเจ้า องค์พุทธเจ้าอีก 5 พระองค์ องค์สมเด็จพระอนุตรธรรมมารดา องค์ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดแก่จักรวาลทั้งปวง เป็นผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ บุคคลท่านใดไม่มีบุตรนิยมมากราบไหว้ขอพรท่านให้ได้บุตรก็จะสมหวังดัง ที่ขอ ไว้ บุตรมีสติปัญญาที่ดี มีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้า พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระมันชุศรีโพธิสัตว์ สมเด็จพุทธมารดาแดนสระทิพย์ และองค์กวงกึงเล่าโจ้ สมเด็จพระพุทธมารดาแห่งดวงดาว รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานซำป้อ หรือ ซาเสี่ยฮุก (องค์พระอมิตาพระพุทธเจ้า องค์พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม และพระสถาปราบโพธิสัตว์) ซึ่งเป็นองค์เทพเจ้าที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือกันเป็นจำนวนมาก
การสักการะ องค์เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ :
1. ถวายชุดผลไม้
2. จุดธูป 11 ดอก โดยไหว้ฟ้า-ดิน 5 ดอก แม่ธรณี 3 ดอก เทพเจ้าหน่าจา 3 ดอก
3. จุดธูปทั้งหมดไหว้เทพเจ้าด้านในศาล กระถาง ละ 3 ดอก โดยไหว้ตามหมายเลขที่กระถางธูป
4. เดินน้ำมันตะเกียง
อีกจุดที่ควรมาไห้วคือ องค์ไท้ส่วยประจำปีปัจจุบัน โดยองค์ไท้ส่วย เป็นเทพเจ้า ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นผู้คุ้มครองดวงชะตา และมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต การกราบไหว้บูชาเป็นประจำทุกปี ถือเป็นการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล และฝากดวงชะตาให้องค์ไท้ส่วยช่วยคุ้มครอง องค์ไท้ส่วยมีทั้งหมด 60 องค์ ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ซึ่งนับจากปีนักษัตร 12 ปี และแต่ละปีแบ่งออกตามธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุไม้ และ ธาตุทอง รวมกันทั้งหมดได้ 60 องค์ ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีองค์ไท้ส่วยประจำปีนั้นๆ วนจนครบ 60 องค์ หรือ 60 ปี
📌 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้แก่
ไหว้เจ้าแม่กวนอิมพันเนตรพันกร อ่างศิลา อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ
พระมหาโพธิสัตว์กวงอิม (ปางพันเนตรพันกร) องค์ประธานภายในวิหาร สีทองอร่ามทำจากทองเหลืองปิดทองทั้งองค์👀 แนะนำที่กิน ที่เที่ยวจังหวัดชลบุรี
ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ (นาจา)
Reviewed by ที่เที่ยว
on
23:26:00
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: